การปรุงแต่งรสชาติอาหาร ความอร่อยของอาหารบางชนิดเป็นผลอันตรายต่อชีวิตของเราเป็นอย่างมาก ความอร่อยที่แท้จริงแล้วจะต้องมาจากวัตถุดิบเป็นหลักยกตัวอย่างเช่นการที่เราต้มน้ำซุป 1 หม้ออาจจะได้ในเรื่องของความหวานจากกระดูกความหวานจากเครื่องเทศที่เราใช้จากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ผักหรือผลไม้ที่เราต้มน้ำซุปไปพร้อมกันแบบนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ได้รับรสชาติที่แท้จริง เทคนิคการทำอาหาร และเป็นความอร่อยจากธรรมชาติไม่ได้เป็นสารปรุงแต่งที่เราทำขึ้นมา การปรุงแต่งรสชาติอาหาร รสจัดอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพตามมาทีหลัง แต่ถ้าเป็นความอร่อยจากการปรุงแต่งรสชาติไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้โซเดียมผงชูรส เครื่องปรุงแต่งต่างๆ ที่ทำให้รสชาตินั้นถูกปากของเรามากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใช้รสชาติอาหารที่จัดจ้างเพิ่มขึ้นในแต่ละวันสิ่งเหล่านี้ส่งอันตรายต่อตัวเราอย่างชัดเจน อย่างเช่นอาหารอีสานที่เรารับประทานกันในทุกวันนี้ หลายคนมักจะพูดว่าถ้าไม่แซ่บก็ไม่อร่อยต้องรสเผ็ดจัด เค็มจัดและเปรี้ยวจัด ถึงจะเรียกว่าถูกปากถูกคอและบางครั้งเราก็รับประทานอาหารดิบๆ ในบางครั้งการรับประทานของดิบ แบบนี้เพราะอาจจะต้องใช้เรื่องของรสชาติน้ำจิ้มหรือเครื่องปรุงแต่งมาช่วยกลบกลิ่นคาวหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์เหล่านี้ให้มากที่สุด แล้วเราก็เข้าใจผิดว่าเป็นความอร่อยที่เลิศรสเป็นอย่างมาก สำหรับคนที่ชอบ การกินอาหารที่ปรุงไม่สุก จะพบเจอกับโรคร้ายอะไรบ้าง  ความเป็นจริงเราอาจจะรับประทานแตกต่างจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเขาใช้วัตถุดิบที่สดใหม่และการปรุงแต่งน้อยเป็นอย่างมาก เน้นในเรื่องของความธรรมชาติเป็นหลักเมื่อปรุงแต่งน้อย ร่างกายก็รับรู้ถึงความสดใหม่และรสชาติที่แท้จริงของวัตถุดิบ มีความเพลิดเพลินกับอาหารที่ได้กินแต่แตกต่างจากคนไทยถึงแม้ว่าจะรับประทานอาหารดิบแต่ต้องปรุงแต่งให้รสชาติจัดจ้าน การทำแบบนี้ส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างหนักอันดับแรกเลยคือเราจะแก่ก่อนวัยอันควร ด้วยร่างกายที่ต้องทำงานหนักเมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ดูแลร่างกายเป็นอย่างดี ทำงานใกล้เคียงกันทั้งหมดเรียกว่าทำงานออฟฟิศเช่นเดียวกันบางคนที่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อายุ 50 แล้วยังดูอ่อนกว่าวัยสำหรับคนที่มีอายุเพียง 35 เท่านั้น เรื่องราวของชีวิตทั้งหมดมาจากเรื่องของอาหารการกิน 100% เลือกรับรสชาติจากธรรมชาติให้มากที่สุด และปรุงแต่งให้น้อย เพียงเท่านี้เราก็เป็นคนที่ดูแลสุขภาพที่ดีและมีความสุขกับอาหารการกินได้แล้ว