น้ำพริกภาคกลาง ภาคกลางมิเครื่องจิ้มมากมาย ทั้งหลนต่าง ๆ และน้ำพริกที่ทานกับผักสด ผักลวก หรือ ปลาต้ม ปลาย่าง ต่าง ๆ มีประวัติของอาหารยาวนานมากกว่า 400 ปี ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา

อาจจะเป็นเพราะว่าภาคกลางอยู่ในบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีทั้งผักต่าง ๆ เนื้อปลา เนื้อสัตว์ต่าง ๆ อย่างอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีประโยคที่กล่าวว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” และเครื่องจิ้มของไทย หรือชาวสยามนั้น ก็มีการประดิษฐ์ประดอย ให้อาหารที่ทานนั้นอร่อยทั้งปาก อร่อยทั้งใจ

น้ำพริกภาคกลาง

แนะนำ 3 น้ำพริกภาคกลาง แสนอร่อยที่ไม่มีใคร ไม่รู้จัก จะมีอะไรบ้าง ?

น้ำพริกลงเรือ

            น้ำพริกของภาคกลางเมื่อกล่าวถึงแล้ว ไม่มีใครไม่รู้จักก็คงจะต้องมาดูแล้วว่า คนที่ไม่รู้จักน้ำพริกนี้ไปอยู่ไหนมา นั่นคือ น้ำพริกลงเรือ ถ้าใครเคยดูละครหลาย ๆ เรื่องก็จะกล่าวถึงน้ำพริกลงเรือ และในปัจจุบันนี้ ได้กลายเป็นเมนูที่เป็นที่รู้จักไปหลายแห่งทั่วโลก อย่างเมนู ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ วิธีทำน้ำพริกนี้ มีวิธีทำดังนี้ โขลก พริกขี้หนูสวน กระเทียม กะปิอย่างหยาบ ๆ จากนั้นใส่ระกำซอย มะอึก และมะดันซอย ตำพอให้แหลกแต่ไม่ต้องให้ละเอียด

จากนั้นก็ใส่กุ้งแห้งป่น และมะเขือพวงพอบุบ ปรุงรสด้วยน้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา ให้ได้ 3 รสคือ เปรี้ยว เค็ม หวาน แล้วนำไปผัด กับกระเทียมดอง และหมูหวาน ตักลงถ้วย เสิร์ฟพร้อมผักสด ผักต้ม และผักทอด อาจจะเพิ่มด้วย ปลาดุกฟู หมูหวาน และไข่เค็ม

น้ำพริกมะขาม

            ภาคกลางยังมีเครื่องจิ้มที่น่าทานอีกมาก และหนึ่งในนั้นคือ น้ำพริกมะขาม ซึ่งพระเอกของถ้วยนี้คือ มะขามอ่อน วิธีทำคือนำเอากระเทียม กับกะปีที่ผ่านการห่อด้วยใบตองแล้วย่างด้วยไฟแล้วตำให้ละเอียด ใส่มะขามอ่อนที่ขูดเอาเปลือกสีน้ำตาลออกแล้วแข่น้ำ จากนั้นใส่พริกขี้หนูตำพอแหลก ปรุงด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา แล้วนำไปผัดให้หอม

จากนั้นใส่เนื้อหมูสับลงไปผัดต่อ ปรุงรสให้มีความเปรี้ยว หวาน และเค็ม เสิร์ฟพร้อมผักสด และเครื่องแนมคือ ปลาสลิดทอด หรือปลาแดดเดียว ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือจะเพิ่มไข่เจียวที่หอมฟู ก็เข้ากัน

น้ำพริกกะปิ

            น้ำพริกที่หลาย ๆ ภาคนำไปปรุงจนติดอกติดใจกันมากมาย แต่แท้ที่จริงแล้วต้นกำเนิดมาจากภาคกลางอย่าง น้ำพริกกะปิ วิธีทำ คือนำพริกขี้หนู ตำกับกระเทียม และกะปิ เมื่อแหลกดีแล้ว ใส่กุ้งแห้งป่น เมื่อเข้ากันดีแล้วปรุงรสด้วย น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ ให้รสชาติอร่อย เปรี้ยว เค็ม หวาน จากนั้นจัดลงถ้วย ทานกับปลาทูทอด ไข่เจียวชะอม หรืออาจะเป็นผักต้ม หรือผักทอดอีกนานาชนิด

ถ้ามีข้าวสวยร้อน ๆ อีกสักจานก็จะวิเศษไปเลย เมื่อน้ำพริกกะปิเหลือในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็จะนำไปทำเป็นแกงรัญจวนทานกันอีกด้วย ซึ่งทำให้เห็นได้ว่า ไม่เพียงแต่เป็นอาหารเครื่องจิ่มน้ำพริกเท่านั้น ยังสามารถนำมาดัดแปลงเป็นอาหารที่อร่อยได้อีกหลากหลายเมนู

เรามีรวบรวมไว้ให้เพื่อนๆได้คัดสรรกันเลยทีเดียวค่ะ เว็บไซต์รีวิวอาหาร ยังพูดถึงส่วนผสม และขั้นตอนในการทำ อาหารหวาน ต่าง ๆ